ชื่อ-สกุล นายสุเมธ ราชประชุม
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนห้วยกรดวิทยา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท
สอนรายวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นม.3 - ม.6
เป็นครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.4/1 (ปีการศึกษา 2568)
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ส23104 ประวัติศาสตร์ 6 จำนวน 1.6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา I31202 การสื่อสารและการนำเสนอ จำนวน 3.3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ว32104 วิทยาการคำนวณ 2 จำนวน 1.6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ว32284 โครงงานคอมพิวเตอร์ จำนวน 3.3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ว33290 การตัดต่อวิดีโอ จำนวน 3.3 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมแนะแนว จำนวน 0.8 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชุมนุมคอมพิวเตอร์ จำนวน 0.8 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมสังคมและสาธารณประโยชน์ จำนวน 0.8 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะกระบวนการคิดเชิงคำนวณ วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ เรื่องสนุกกับเซนเซอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ CODING Model
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ปัญหาการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณ ในปัจจุบันการปรับเปลี่ยนหลักสูตรจึงจำเป็นต้องให้ครูวิชาวิทยาศาสตร์หรือสาระเทคโนโลยีมาช่วยทำการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนครูน้อย นอกจากนั้นครูหนึ่งคนอาจจำเป็นต้องรับผิดชอบหลายรายวิชา ทำให้ครูอาจขาดความพร้อมทั้งในด้านเนื้อหารายวิชาและกระบวนการสอน ที่เหมาะสมก็จะส่งผลต่อกระบวนการสอนหรือการถ่ายทอดความรู้ ถ้าครูสอนวิชาวิทยาการคำนวณโดยที่สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมก็อาจจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีต่อผู้เรียน รวมทั้งครูหลายทำนอาจจะขาดประสบกรณ์เหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้กระบวนการเรียนการสอนขาดความต่อเนื่อง นอกจากปัญหาด้านเนื้อหา กระบวนการเรียนการสอนที่ทำให้การเรียนรู้วิชานี้น่าสนใจและจับต้องได้ การขาดแคลนงบประมาณของโรงเรียนในการที่จะจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็นและได้มีประสบการณ์ตรงได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่นการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการทำงานของเล่นสร้างเสริมปัญญา เช่น ของเล่นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งผู้เรียนอาจจะไม่เคยจับต้องของเล่นเหล่านี้ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมได้
จากปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาพบปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนและครู ที่ยังไม่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน ทำให้นักเรียนขาดความสนใจและให้ความสำคัญในการเรียนรู้ ซึ่งส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และพบปัญหาการติด 0 ร มส. เป็นจำนวนมาก ข้าพเจ้าจึงได้จัดทำ ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะกระบวนการคิดเชิงคำนวณ วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ เรื่องสนุกกับเซนเซอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ CODING Model เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาการคำนวณให้เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียนขนาดเล็กได้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งทางด้านความรู้ความสามารถของผู้เรียนต่อไป
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนห้วยกรดวิทยา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561 ในเรื่องของ มาตรฐานการเรียน และผลการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม ในการจัดการเรียนรู้วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์
2.2 จัดทำโครงร่างของเนื้อหาแอปพลิเคชัน รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สนุกกับเซนเซอร์ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ พร้อมเฉลยตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด ดังนี้
1) หัวข้อที่ 1 เรื่อง ความรู้พื้นฐานเซนเซอร์
2) หัวข้อที่ 2 เรื่อง การเชื่อมต่อเซนเซอร์ภายนอก
2.3 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหา การเฉลยของตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข
2.4 ครูผู้สอนนำแอปพลิเคชันมาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโรงเรียนห้วยกรดวิทยา
2.5 นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เคยเรียนเนื้อหา เรื่อง สนุกกับเซนเซอร์ และให้นักเรียนเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุง แก้ไข หรือนักเรียนมีความสับสนในข้อความใด ให้ดำเนินการปรับภาษาให้เข้าใจง่ายขึ้น
2.6 นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั้งในรูปแบบ ONLINE หรือ ONSITE โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท
2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ ในโปรแกรม Microsoft Excel และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริมด้วยคลิปวีดีทัศน์ที่ครูจัดทำขึ้น สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีชิ้นงาน/นวัตกรรม ผ่านรูปแบบการดำเนินการ CODING จำนวน 10 ชิ้นงาน
3.2 เชิงคุณภาพ
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนห้วยกรดวิทยา มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่านรูปแบบการดำเนินการ CODING
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนห้วยกรดวิทยา มีทักษะการคิดเชิงคำนวณ การคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ผ่านรูปแบบการดำเนินการ CODING นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 60 คน
ปัญหา คือ นักเรียนยังไม่เข้าใจในเนื้อหา เรื่อง กลไกไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพราะเนื้อหาค่อนข้างยาก และเวลาในการเรียนน้อยทำให้เด็กไม่เข้าใจ และนำไปต่อยอดในชิ้นงานไม่ได้
แก้ปัญหาโดย ใช้สื่อแอปพลิเคชัน เรื่อง กลไกไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ความสนุก ตื่นเต้น และมีการแข่งขันระหว่างที่เรียน
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านแพลตฟอร์ม OBEC Content Center ของ สพฐ.
แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)
ประจำปีงบประมาณ 2568
รายงานผลตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)
ประจำปีงบประมาณ 2568
คำสั่งปฏิบัติงาน ปี 2568